วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ชม “ผ้าฝ้ายทอมือ บ้านเขาเต่า” หัวหิน



บ้านเขาเต่า เป็นชุมชนที่อยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินมาทางใต้ประมาณ 7-8 กิโลเมตร หมู่บ้านเขาเต่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดชายทะเล ปัจจุบันชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนมากจะทำอาชีพประมง และค้าขาย แต่ในอดีตชาวบ้านจะทำประมงเป็นอาชีพหลักอาชีพเดียวเท่านั้น เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2507 สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านเขาเต่า จึงทรงรับสั่งให้มีการจัดตั้งศูนย์อบรมทอผ้าฝ้ายด้วยมือ ให้ชาวบ้านในหมู่บ้านและบริเวณใกล้เคียงได้เข้ามารับการอบรมและยึดอาชีพทอผ้าฝ้ายเป็นอาชีพเสริม



คุณป้าอมลวรรณ ผู้ดูแลศูนย์หัตถกรรมหมู่บ้านเขาเต่า เล่าให้หมูหินฟังว่า ได้ทำมา 40 กว่าปีแล้ว และยังตั้งใจที่จะสานต่อให้ลูกหลานได้ทำต่อไป คุณป้าอมลวรรณก็ใจดีพาหมูหินเดินชมบรรยากาศ การทอผ้าด้วยมือจริง ๆที่โรงทอผ้า ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับร้านค้า ที่เป็นศูนย์จำหน่ายผ้าฝ้าทอมือ คุณป้าบอกว่าได้ส่งออกไปหลายที่ ส่วนผ้ากับรับจากที่อื่นมา แต่เป็นผ้าฝ้ายทอด้วยมือ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญผ้าทอของที่นี่จะเป็นผ้าทอฝ้ายที่ประณีตมาก ๆ และมีลวดลายสวยงาม ด้วยไอเดียของแม่บ้านที่ผลิตออกมาได้ลวดลายสวยงามแปลกตา และมีลายพื้นเมือง พื้นบ้านสวยงามอีกมากมาย และเพราะได้รับการฝึกจากครูสอนอีกที ทำมานานจนมีประสบการณ์และทำได้อย่างเชี่ยวชาญแล้วล่ะค่ะ



ที่มา : http://moohin.com/trips/prachuapkhirikhan/hand-woven-cotton/

ณ แม่กลอง ตลาดร่มหุบ



ฉึกฉัก ฉึกฉัก ปู๊น ปู๊น.. ,,, ได้ยินเสียงรถไฟแบบนี้...คงคิดว่าจะพาไปนั่งรถไฟกันอีกแล้วใช่มั้ยคะ... รอบนี้ไม่ได้พาไปนั่งรถไฟค่ะ ..แต่จะพาไปเดินเล่นตลาดรถไฟ..ที่เมืองแม่กลอง ที่หลายคนรู้จักกันดีในนาม “ตลาดร่มหุบ” ของเมืองแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงครามนั่นเอง,,

ตลาดร่มหุบ หรือ ตลาดที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ตลาดเสี่ยงตาย” เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ริมราง จะอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟแม่กลอง ความยาวของตลาดประมาณ 100 เมตรเวลารถไฟ โดยสองริมฝั่งรางรถไฟ จะเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้า ที่นำอาหารสด อาหารคาวหวาน มาให้บริการ โดย สินค้าที่วางขายที่ตลาดแห่งนี้จะเป็นพวกผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ อาหารทะเลสด ๆ ขายกันในราคาไม่แพง จึงเป็นตลาดยอดนิยมของชาวบ้านบริเวณนั้น เพราะราคาถูกและคุณภาพดี โดยเฉพาะปลาทู หน้างอ คอหัก อาหารทะเลสดๆ ,, ซื้อกลับไปทำอาหารที่บ้าน..ทั้งถูก ทั้งสด ทั้งอร่อย

ตลาดร่มหุบ หรือตลาดเสี่ยงตาย เป็นส่วนหนึ่งของตลาดเทศบาลจังหวัดสมุดสงคราม ตลาดร่มหุบ เริ่มมาตั้งขาย บริเวณทางริมรถไฟประมาณปี พ.ศ. 2527 เป็นตลาดที่อยู่บนทางรถไฟ สายแม่กลอง-บ้านแหลมพ่อค้า-แม่ค้า ตั้งแผงสองข้างทางรถไฟ ส่วนลูกค้าก็อาศัยทางรถไฟเป็นถนน สำหรับจับจ่ายซื้อของ ทั้งสองฟากของรางรถไฟจะกางร่มชนกัน ส่วนนักท่องเที่ยวและชาวบ้าน ก็จะเดินซื้ออาหารกันสะดวกสบาย...บนเส้นรางรถไฟ ,, แต่ถ้าหากมาถึงใกล้ๆเวลารถไฟ เข้าหรือออกสถานี ก็ต้องลุ้นกันหน่อยล่ะค่ะ... ,,

เพราะ ,,, เมื่อได้ยินเสียงรถไฟ หรือสิ้นเสียงระฆังจากสถานี ที่ดังขึ้น พร้อมธงเขียวโบกสะบัด จากนายสถานี ทุกสายตาก็เริ่มจับตา มองต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

หากรถไฟค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่สถานี รถไฟแม่กลอง หรือ ออก จากสถานี เราก็จะเห็นบรรดาพ่อค้าแม่ค้า รีบเร่งเก็บร่มกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางความตื่นเต้นของนักท่องเที่ยว ที่เดินช็อปปิ้ง และรอชมความตื่นเต้น บนตลาดเสี่ยงตายแห่งนี้

เรียกได้ว่าเป็น การหุบร่ม และ กางร่ม กลายเป็นงานประจำ หรือกิจวัตร ของพ่อค้าแม่ขาย เลยก็ว่าได้ แต่นี่ก็ล้วนเป็นเสน่ห์ และความสนุกสนานของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้ชมความแปลกใหม่ ของตลาดร่มหุบ นั่นเอง



นักท่องเที่ยวหลายคน ใช้ วิธีท่องเที่ยว โดยการมาขึ้น รถไฟที่สถานีรถไฟบ้านแหลม มายังสถานีรถไฟแม่กลอง หากนั่งรถไฟมา ก็จะแอบมองเห็นร่มของพ่อค้าแม่ค้าค่อยๆ หุบลงเมื่อได้ยินเสียงรถไฟดังมาแต่ไกลๆ พร้อมกับ กระบุงกระจาด ทั้งหลาย รวมถึงสินค้า คาว หวาน ก็จะถูก เลื่อนเก็บเข้าที่อย่างเป็นระบบ ระเบียบ สื่อให้เห็นว่า ที่นี่ เค้ามืออาชีพกันแล้ว... เมื่อรถไฟผ่านไป ทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม ถ้าใครอยากมาเที่ยวที่นี่ เพื่อดูร่มหุบแล้วล่ะก็ คงต้องมากันให้ถูกเวลา ตลาดแห่งนี้เปิดขายทุกวันเวลา 6.00-18.00 น.และ กำหนดเวลาเดินรถไฟสายแม่กลอง- บ้านแหลม เวลาเข้า-ออก (จำนวน 2 โบกี้)คือ ออก : 6.20 น.,9.00 น. ,11.30 น.,15.30 น. เข้า :8.30 น. 11.10 น.15.30 น.

ที่มา : http://moohin.com/trips/samutsongkhram/markettrain/

สีสันราตรี บนถนนบางลา หาดป่าตอง...


ปกติแล้วในตอนกลางวัน หาดป่าตอง จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวมาจากทั่วทุกสารทิศ เดินทางมาเพื่อชมความสวยงามของท้องทะเลอันดามัน เพราะหาดป่าตอง เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไทย เป็นชายหาดทรายขาวละเอียด จึงเหมาะแก่การเล่นน้ำ อีกทั้งเป็นชายหาดที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร และที่หาดป่าตองนี้เอง ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นเป้าหมายในการเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากที่สุด โดยที่ “หาดป่าตอง” จะมีร้านค้า สถานบันเทิง ธนาคาร ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอย่างพร้อมสรรพ

นอกจากนี้ หาดป่าตองยังมีห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมาก คือ จังซีลอน

ความคึกคักของซอยบางลา จะปรากฏให้ทุกสายตาของนักท่องเที่ยว ได้เดินเข้ามารวมตัวกัน ในยามราตรี ที่ซอยบางลาจะถูกปิดถนนทั้งสาย เพื่อเป็นถนนคนเดิน ที่มีนักท่องเที่ยว ทั้งไทย และต่างชาติ เดินไปมา เลือกหาร้านนั่งดื่มในยามราตรี

สีสันของป่าตอง โดยเฉพาะยามค่ำคืน เรียกว่า ตระการตากับบรรดาร้านรวงที่เปิดเรียงรายอยู่มากมายในถนนแห่งนี้ ทั้งสถานบันเทิง ผับ-บาร์ ร้านขายสินค้านานาชนิด สร้างแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศต้องแวะเวียนมายังถนนเส้นนี้ เพื่อสัมผัสกับความบันเทิง ณ ชายหาดป่าตอง สร้างความสนุกสนาน และความมีชีวิตชีวาให้แก่บรรดานักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบเสน่ห์ยามค่ำคืนและถือเป็นไฮไลท์ของหาดป่าตองโดยแท้

หมูหินได้เก็บภาพบรรยากาศ การตระเวนเที่ยว แดนซ์บนถนนบางลามาให้ เพื่อนๆ ได้ชมกัน เรียกว่า ความคึกคัก ไม่มีหมดบนถนนบางลา กับสีสันยามค่ำคืนที่จะมีให้กับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ 6 โมงเย็น จนถึง 6 โมงเช้า ณ ซอยบางลา หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

ที่มา : http://moohin.com/trips/phuket/bangla/

อัมพวาอีกแล้ว..ยิ่งไป..ยิ่งมีอะไรแยะ.....!!!



ต้องลองตั้งคำถามกับตัวเอง ... ว่า ทำไม ต้องเป็นอัมพวา..,, จะอารมณ์ไหน ๆก็ต้องอัมพวา,,ถ้าจะให้ตอบจริงๆ ก็คงเป็นเพราะ มิตรไมตรีของคนแม่กลองนี่ล่ะ...ที่เป็นเหตุผลหนึ่งเดียวในใจของสาวหมูหินคนนี้ ที่อยากจะไปพบเจอ ไปเยี่ยมเยียน พี่น้องแม่กล้องที่คุ้นเคยกันมายาวนาน,, แต่ไม่เพียงเท่านั้น อีกหนึ่งเหตุผลของการเดินทางไป อัมพวา แทบจะทุก ๆเดือน หรือ บางเดือนแทบทุกอาทิตย์ นั่นก็คือการเปลี่ยนแปลง ของอัมพวา นั่นเองค่ะ

การเปลี่ยนแปลง ณ ที่นี้ เราหมายถึง การพัฒนาพื้นที่ หรือสิ่งแปลกใหม่บนตลาดน้ำ ที่มีให้เราได้เห็นกันอยู่ตลอด เรียกว่า ไปรอบไหน ก็เจออะไรใหม่ๆ อยู่เรื่อย..แต่สิ่งเดียวที่ยังคงอยู่นั่นก็คือ วาจาเพราะพริ้งรื่นหู และน้ำใจงามของคนอัมพวา ที่ไม่เคยแปรเปลี่ยนไป

การมาครั้งนี้สนุกสนานเป็นไหนๆ เพราะได้พบเจออะไรแปลกใหม่มากมาย...อันที่จริง ไม่ได้มาแป๊ปเดียว เอง แต่ทำไมรู้สึกเหมือนไม่ได้มานานแรมปี อาจจะเป็นเพราะ มาทีไรก็เดินไม่ทั่วถึงซะที ก็ตลาดน้ำคนเยอะ คึกคักแบบนี้ ทุกอาทิตย์,, บางทีก็ต้องท้อบ้างอะไรบ้าง

วันนี้ เราจะมาว่าถึงแหล่งช็อปปิ้ง แห่งใหม่ของตลาดน้ำ จะว่าใหม่ก็ไม่ใหม่ เพราะที่นี่เค้าตั้งมาเกือบจะปีแล้ว เรียกกันว่า บ้านแม่หนู เป็นศูนย์กลางค้าที่รวบรวมร้านค้าที่จำหน่ายสินค้ามากมาย ทั้งงานศิลปะ,หัตถกรรม,ของที่ระลึก,เสื้อผ้าเครื่องประดับ, สินค้าเพื่อสุขภาพ,อาหารและเครื่องดื่ม,ของเก่าของสะสม, มุมถ่ายภาพ,เครื่องเล่นเด็ก และมุมพักผ่อน สำหรับทำกิจกรรมของคนทุกวัยในครอบครัว

“บ้านแม่หนู อัมพวา” เป็นของขวัญแทนความรัก ที่ลูกๆมอบให้เป็นของขวัญแด่คุณแม่ยุวดี กิ่งมณี หรือคุณแม่หนู จากที่ดินมรดกตกทอด จากรุ่นคุณทวด สู่คุณปู่ จากคุณปู่ สู่คุณพ่อ จนกระทั่งตกทอดมาถึงลูกๆ โดยมี คุณฤดี พรหมะจุล เป็นผู้ริเริ่มพลิกฟื้นที่ดินผืนนี้ให้กลับมามีชีวิต ชีวาอีกครั้ง โดยใช้ประสบการณ์จากการทำงานเป็นเวลา 20 ปีในบริษัทพัฒนาอสังหาริม

ที่มา : http://moohin.com/trips/samutsongkram/baanmaenoo/

เที่ยวชมสังคมทะเล ( SEA SOCIETY )



การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรม ในโครงการเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนภาคกลาง ในวันที่ 18-20 มิถุนายน 2554 โดยจัดการเรียนรู้ในตอน เที่ยวชมสังคมทะเล (SEA SOCIETY) เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว แบบสร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะปลุกระดมแนวคิดของนักท่องเที่ยวให้หันมาท่องเที่ยวแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม และท่านจะได้มีส่วนร่วมในการร่วมกันลดภาวะโลกร้อนเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากภาวะโลกร้อน เพื่อมุ่งสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตั้งแต่เส้นเทางจากกรุงเทพมหานคร – เพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ เป็น เวลา 3 วัน 2 คืน โดยมีน้อง ๆนักศึกษาคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ กว่า 80 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยค่ะ

กิจกรรมในโครงการเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนภาคกลาง ในตอน เที่ยวชมสังคมทะเล (SEA SOCIETY) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมให้เยาวชน ใช้เวลาในวันหยุดทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและตอบสนองนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการกระจายรายได้สู่ภูมิภาค นอกจากนี้ยังช่วยปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนและเยาวชนรุ่นใหม่ เป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้แก่นักท่องเที่ยว และการพัฒนาจิตสำนึกความเข้าใจของนักท่องเที่ยวในการทำคุณประโยชน์ให้แก่สิ่งแวดล้อม

เริ่มจากการเดินทางในวันแรกด้วยรถโค้ชปรับอากาศ VIP นำน้องๆ ไปสู่ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 6 (จ.เพชรบุรี) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่ง ของกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่หน้าวัดบางขุนไทร มีหน้าที่ในการจัดการทรัพยากรป่าชายเลน เพื่อการสงวน อนุรักษ์ และฟื้นฟู โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน และปกป้องกันปราบปรามการบุกรุก ทำลายป่าชายเลนใน พื้นที่จังหวัดเพชรบุรีกว่า 35,000 ไร่ รวมทั้งประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ แก่ประชาชนทั่วไปให้มีจิตสำนึกในการ ปกป้องดูแลรักษาไว้ ซึ่งความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้คงอยู่ และอำนวยประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน

ที่มา : http://moohin.com/trips/phetchaburi/seasociety/

เที่ยวทั่วไทย ไม่ไปไม่รู้...

ขอเชิญคนไทย เที่ยวไทย คืนกำไรแก่ประเทศชาตินะค่ะ ^ ^