วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข้อปฏิบัติและข้อควรระวังในการเที่ยวป่าหน้าฝน



ข้อปฏิบัติและข้อควรระวังในการเที่ยวป่าหน้าฝน (อสท.)

เรื่อง : วินิจ รังผึ้ง

การ เดินทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมาติ ป่าเขา น้ำตกในฤดูฝน หรือในสภาพอากาศปรวนแปร เอาแน่เอานอนไม่ได้นั้น หากมีการวางแผนการเดินทาง และวิธีปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยที่ดี ก็จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของท่านเป็นไปอย่างมีความสุข และปลอดภัยยิ่งขึ้น

ข้อปฏิบัติดังกล่าวทำได้ไม่ยาก หากจะลองนำเอาประสบการณ์การเดินทางของนักเดินทางรุ่นก่อน ๆ นำไปใช้กันดู...

1. ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ด้วยการเข้าไปดูข้อมูลที่เว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th ซึ่งมีรายละเอียดสภาวะอากาศประจำวัน พยากรณ์อากาศในรอบ 3 วัน และในรอบสัปดาห์ แบ่งเป็นภาค กลุ่มจังหวัด ให้ตรวจสอบกันก่อนออกเดินทาง

2. ตรวจสอบสภาพดินฟ้าอากาศจากภาพถ่ายดาวเทียม ง่าย ๆ ด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์ www.google.com แล้วพิมพ์คำว่า ภาพถ่ายดาวเทียม ทางเว็บไซต์จะค้นหาเว็บไซต์ที่แสดงภาพถ่ายดาวเทียมขึ้นมาให้ท่าน ซึ่งภาพถ่ายดาวเทียมจะแสดงภาพแผนที่ประเทศไทย แสดงภาพกลุ่มเมฆและกลุ่มพายุ ให้เห็นว่าปกคลุมอยู่บริเวณจังหวัดใด มีปริมาณมากน้อยเพียงใด โดยภาพถ่ายดาวเทียมจะเปลี่ยนแปลงทันสมัยทุกวัน ทำให้พอจะประเมินได้ว่า สภาพอากาศบริเวณจังหวัดที่จะเดินทางไปเป็นเช่นใด การเช็คภาพถ่ายดาวเทียมก่อนเดินทางไปนั้น จะเป็นประโยชน์มากกับช่างภาพ เพราะจะสามารถรู้ได้ว่าท้องฟ้าจะสดใสมีแสงแดดหรือไม่ หากบริเวณที่จะเดินทางไปมีกลุ่มเมฆมากหรือมีพายุที่กำลังจะเคลื่อนผ่าน ก็อาจจะเลื่อนการเดินทางออกไป หรือมีการเตรียมตัวและใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น

3. การปฏิบัติตนขณะลงเล่นน้ำตก หรือกิจกรรมอื่น ๆ ในสายน้ำ เช่น ล่องแก่ง ให้สังเกตระดับน้ำในลำธารและสีของสายน้ำ หากน้ำมีระดับเพิ่มขึ้น หรือสีของน้ำเปลี่ยนจากน้ำใสเป็นสีแดงขึ้น ขุ่นขึ้น กระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงขึ้น ให้รีบขึ้นจากสายน้ำทันที หรือหากล่องแก่งก็ให้พักเรือเข้าฝั่ง หยุดพักดูจนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย ระดับน้ำไม่สูงเพิ่มขึ้น จึงค่อยเดินทางต่อ

4. พยายามสังเกตและฟังเสียงที่ดังผิดปรกติ เพราะน้ำป่าที่เชี่ยวไหลหลากล้นลงมาจากบนภูเขานั้น จะก่อให้เกิดเสียงดังขึ้นกว่าเสียงของสายน้ำปรกติ ซึ่งช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นั้น อาจเป็นช่วงนาทีชีวิตที่จะสามารถหนีรอดจากน้ำป่าที่บ่าไหลได้ หรือเตรียมตัวมองทางหนีทีไล่ไว้ให้พร้อมเผื่อเกิดวิกฤติขึ้นมาจะได้หนีขึ้น ที่สูงได้ทัน

5. การลงเล่นน้ำตกควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่อย่างเคร่งครัด เช่น ไม่ลงเล่นน้ำในบริเวณเขตหวงห้าม หรือปีนป่ายขึ้นไปบนพื้นที่อันตราย และควรปฏิบัติตามคำแนะนำหรือคำเตือนของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสถานที่อย่าง เคร่งครัด

6. หากมีความจำเป็นต้องเข้าไปตั้งแคมป์ในป่า ไม่ ควรตั้งแคมป์ใกล้ชิดริมลำธารมากเกินไป เพราะในตอนกลางคืนขณะพักผ่อนนอนหลับอาจจะมีน้ำป่าบ่าไหลลงมาก่อให้เกิด อันตรายขึ้นได้ ควรเลือกทำเลตั้งแคมป์ที่ปลอดภัยจากระดับน้ำ หรือพ้นจากหุบเขาที่เคยเป็นร่องน้ำหรือช่องทางน้ำไหล

7. หากอยู่ท่ามกลางฝนตก หรือฟ้าคะนองในธรรมชาติ ควรปิดโทรศัพท์มือถือหรือวิทยุ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดฟ้าฝ่า หากไม่จำเป็นแล้ว การทำกิจกรรมกลางแจ้งไม่ควรสวมเครื่องประดับที่ทำจากโลหะติดตัวไป

8. ในสายน้ำหรือตามโขดหินริมลำธารที่ส่วนใหญ่เปียกน้ำอยู่ตลอดเวลานั้น ค่อน ข้างจะลื่นควรระมัดระวังในการเดิน และควรใช้รองเท้าที่กระชับ พื้นรองเท้าควรเป็นยางและมีดอกยาง ซึ่งจะเกาะพื้นหินพื้นดินได้ดีกว่ารองเท้าพื้นแข็ง

9. ไม่ควรอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่เปียก หรืออยู่ในน้ำที่หนาวเย็นเป็นเวลานานเกินไป เพราะร่างกายจะค่อย ๆ สูญเสียความร้อน และอาจจะเป็นตะคริวจมน้ำ หรือเป็นไข้ได้


ที่มา : http://travel.kapook.com/view15417.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น