วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข้อปฏิบัติการขับรถท่องเที่ยว ในเส้นทางวิบาก



ข้อปฏิบัติการขับรถท่องเที่ยว ในเส้นทางวิบาก (อสท.)


1. จัดตำแหน่งการนั่งขับให้มั่นคง ปรับตำแหน่งกระจกมองข้าง กระจกมองหลังให้มองเห็นชัดเจน ปรับระดับพวงมาลัย ที่นั่งให้พอดีกับคันเร่ง เบรก คลัตซ์ เพื่อการควบคุมรถได้มีประสิทธิภาพสูงสุด จะได้ขับรถเที่ยวได้อย่างสนุก

2. รัดเข็มขัดนิรภัยเสมอ ไม่ว่าสภาพเส้นทางเป็นอย่างไร

3. การออกตัว การเร่ง การเบรก และการบังคับเลี้ยว จะต้องเป็นไปอย่างประสานสัมพันธ์กัน โดยค่อย ๆ เหยียบคันเร่งเพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี เพราะการเร่งแรงและเพิ่มรอบของเครื่องยนต์เร็วเกินไป จะทำให้ล้อหมุนฟรีจมลงในทราย โคลน หรือเกิดการลื่นไถล เสียสมดุลของรถได้ การค่อย ๆ กดคันเร่งและรักษารอบของเครื่องยนต์ให้คงที่ จะทำให้รถสามารถข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ ยิ่งหากเป็นการเข้าเกียร์สโลว์ การเหยียบคันเร่งจะตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีพลัง การเร่งเท่าที่จำเป็นและค่อย ๆ เร่งเพิ่มอย่างนุ่มนวลเมื่อจำเป็นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และเช่นเดียวกันการผ่อนคันเร่งอย่างนุ่มนวล ก็จะทำให้การขับเป็นไปอย่างนุ่มนวลด้วย

4. ในการขับรถท่องเที่ยว การเบรกก็จะต้องเป็นไปอย่างนุ่มนวลโดยพยายามควบคุมความเร็ว ชะลอความเร็วก่อนถึงสิ่งกีดขวาง เพื่อหลีกเลี่ยงการเบรกอย่างกะทันหัน รุนแรง การเบรกรุนแรงอาจทำให้เกิดอาการล้อล็อก หรือลื่นไถลเสียการทรงตัวของรถได้

5. เมื่อขึ้นและลงเขาให้ใช้เกียร์ต่ำ เพื่อเพิ่มพลังเครื่องยนต์และใช้เกียร์ต่ำช่วยชะลอควบคุมความเร็วของรถในขณะลงเขาร่วมกับการใช้เบรก

6. การขับรถผ่านเส้นทางที่มีก้อนหินหรือเนินดินขวาง พยายาม ขับให้ล้อปีนข้ามก้อนหินช้า ๆ โดยใช้เกียร์ต่ำ เพื่อช่วยไม่ให้ช่วงล่างกระทบกระแทกหิน ควรหลีกเลี่ยงการขับคร่อมก้อนหิน เพราะอาจทำให้ช่วงล่างกระแทกกับก้อนหินเสียหายได้

7. พยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นทรายหรือโคลน หากจำเป็นต้องลุยผ่านให้ใช้เกียร์ต่ำ รักษารอบให้สม่ำเสมอพยายามอย่าเร่งเครื่องบินเกินความจำเป็นเพราะอาจทำให้ ล้อฟรีจมโคลนลึกลงไปจนยากแก่การแก้ไข

8. การขับเคลื่อนผ่านทางที่เป็นร่องลึกรูปตัว V ให้ ขับคร่อมไปบนร่อง แม้ขอบของร่องจะกว้างกว่าสองข้างของช่วงล้อรถ ให้ค่อย ๆ คร่อมและเคลื่อนตรงไปข้างหน้าช้า ๆ รักษารถให้ตรง หากรถเกิดอาการเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งให้หยุด อย่าพยายามเคลื่อนไปข้างหน้า เพราะอาจทำให้รถของท่านลื่นไถลตะแคงข้างได้ ให้ค่อย ๆ หันพวงมาลัยไปด้านที่เอียง แล้วเร่งเครื่องเบา ๆ ให้รถกลับทรงตัวอย่างเดิม แล้วจึงค่อย ๆ เคลื่อนต่อไปข้างหน้าดังเดิม

9. หากเวลาขับรถท่องเที่ยว ปีน ข้ามหิน หรือสะพานไม้แคบที่มีเส้นทางเฉพาะ ควรมีคนลงไปทำหน้าที่บอกทาง โดยคนบอกทางต้องมีคนเดียวผู้ขับต้องเปิดกระจกฟังการบอกทาง นั่งในตำแหน่งขับอย่างมั่นคง มองตรงไปข้างหน้าอย่าใช้วิธียื่นหัวออกมานอกตัวรถ มองสัญญาณมือจากคนบอกทางและค่อย ๆ ควบคุมรถไปตามนั้นจนข้ามผ่านอุปสรรค

10. หากไม่แน่ใจต่อเส้นทางข้างหน้า ให้หยุดรถ เดินลงมาสำรวจเส้นทางให้มั่นใจแล้วจึงขับผ่าน

11. ในการขับรถท่องเที่ยวข้ามลำธาร หาก มองไม่เห็นพื้นดินใต้น้ำ หรือไม่ทราบระดับความลึก ให้ลงมาใช้ไม้วัดระดับความลึกดูก่อน หากระดับน้ำสูงกว่าท่อกรองอากาศของเครื่องยนต์ไม่ควรขับลุยข้ามไป เพราะเครื่องยนต์จะดับกลางน้ำได้ ขับข้ามน้ำช้า ๆ ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่สม่ำเสมอ

12. หากเดินทางร่วมกันหลายคันควรทิ้งระยะห่างกันให้มากพอสำหรับความปลอดภัย เพราะกรวดหรือหินจากยางคันหน้าอาจดีดใส่กระจกหน้ารถแตกได้ และเมื่อขึ้นเนินที่สูงชัน ควรจอดรถให้รถคันหน้าขึ้นพ้นเสียก่อน เพราะรถคันหน้าอาจขึ้นไม่ไหวลื่นไถลลงมาได้


ที่มา : http://travel.kapook.com/view14074.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น